TINDOL 500 หรือ ยาเขียวเหลือง เป็นยาในกรุ๊ปโอปิออยด์ เป็น ยาแก้ปวด ที่ใช้ทุเลาอาการปวดเหมือนกับมอร์ฟีน ลดอาการปวดระดับปานกลางจนกระทั่งระดับร้ายแรง อาทิเช่น ปวดไมเกรน ปวดเรื้อรังจากโรค ยาเขียวเหลือง เป็นยาอันตราย ต้องซื้อและได้รับอนุญาตจากหมอเท่านั้น เนื่องจากว่าจำเป็นต้องมอบยาโดยเภสัชกรดูแลโดย ยา ทรามาดอล หรือ Tramadol มักถูกใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้เกิดอาการเคลิ้ม และมีความสุข เนื่องจากตัวยาออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทศูนย์กลางเหมือนสารเอ็นโดรฟิน ถ้าหาก ยาเขียวเหลือง ราคาส่ง ใช้ไปเป็นเวลานานๆจะมีผลให้ติดยาเสพย์ติด เมื่อหยุดยาก็เลยกำเนิดอาการถอนยา หรือ กินยาเกินขนาด ซึ่งเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก
น.ส.ปยุดา ยอมรับว่า ได้ขายยาดังกล่าวให้กับเด็กนักเรียนที่มาขอซื้อ ยาtramadol จริง และขายในช่วงที่ไม่มีเภสัชกรอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว น.ส.ปยุดา ไปทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาขายยาอันตรายโดยไม่มีเภสัชกร พร้อมทั้งยังพูดอีกว่า ยาเขียวเหลือง หรือ ยาแก้ไอเม็ดสีเขียว ตัวนี้ ก็มีขายกันทุกร้าน บางร้านก็มี ยาทามาดอล เจ้าหน้าที่จะกล้าจับหรือไม่
ด้าน นายสุพัฒน์ ตรีสกุล เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข จ.ราชบุรี เผยว่าร้านขายยาแห่งนี้มีใบอนุญาตถูกต้อง แต่จะผิดเรื่องที่ขาย ยาอันตราย โดยไม่มีเภสัชกรประจำร้านอยู่ และเป็นเรื่องของจิตสำนึกของร้านขายยา ที่จะต้องทำการสอบถามข้อมูลจากลูกค้า ในเรื่องที่มาขอซื้อยาในครั้งละมากๆ โดยเฉพาะในเด็กๆ ที่มาซื้อ ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขก็มีการออกสุ่มตรวจตามร้านเป็นประจำ รวมทั้งจัดอบรมในเรื่องของการขายยาให้กับกลุ่มลูกค้าเป็นประจำ
แต่ในรายของร้านขายยาร้านนี้ ถือว่าไม่มีจิตสำนึกในการขายยา เพราะแม้แต่เด็กๆ มาขอ ซื้อ ยาเขียวเหลือง หรือ ยาแก้ปวดเม็ดเขียวเหลือง ครั้งละมากๆ ถึง 30 เม็ด ก็ยังขาย ทั้งที่รู้ว่าเด็กๆ นั้นนำยาไปใช้ผิดประเภท
ทรามาดอล มีการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดในตอนนี้ แต่อาจถูกละเลยเห็นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะไม่ใช่ยาเสพติด และไม่ใช่สารตั้งต้นไปทำยาเสพติดยอดฮิตต่างๆ โดยก่อนมาเป็น ผกก.ดส. ผมคลุกคลีทำงานด้านสืบสวนจับกุมคนร้ายฉกชิงวิ่งราว จี้ชิงทรัพย์ ฯลฯ ที่ผมจับได้ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี แทบจะทุกคนจะรับสารภาพว่าก่อนมาก่อเหตุทำอะไรมา ซึ่งเขากินยาแก้ปวดจำพวกนี้โดยเอายาเขียวเหลือง ผสม โค้ก หรือ ผสมเครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าอัพเลเวลหน่อยก็ผสมใส่น้ำกระท่อม จากเดิมที่เคยได้ยิน สี่คูณร้อย ก็อาจจะกลายเป็น ห้าคูณร้อย หรือ หกคูณร้อย ก็ว่ากันไป
เมื่อเมาฮึกเหิมก็มาก่อเหตุ ที่สำคัญกิน ยาเขียวเหลืองผสมโค้ก ทำให้เมาแต่เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ไม่ขึ้น ตรวจฉี่ก็ไม่มีสีม่วง ซึ่ง ทามาดอล ราคาส่ง นั้นราคาไม่แพง และสามารถหาซื้อยาเขียวเหลืองตามร้านขายยาทั่วไป ผมต้องการตัดวงจรอาชญากรรม จึงต้องกวดขันจับกุมร้านขายยาที่ทำผิด ปล่อยขายให้เด็กเยาวชน ซึ่งคนขายส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เภสัชกร ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบทางสังคม
เป็นยากลุ่มโอปิออยด์ เป็น ยาแก้ปวด ใช้บรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง ซึ่งมีกลไกการทำงานคล้ายกับอนุพันธุ์ของฝิ่น ยาเขียวเหลืองนี้มีจำหน่ายในหลายประเทศ สำหรับประเทศไทยจะคุ้นเคยกับยาชื่อการค้าว่า “ทรามาดอล (Tramadol)” มีลักษณะเป็นแคปซูลสี เขียวเหลือง
ไม่ควรรับประทานยาทรามาดอล (tramadol 50 mg) ต่อวัน เนื่องจากอาจเกิดอาการชัก ไข้สูง สภาพกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง และมีอาการปวดร่วมด้วยได้
ยาทรามาดอล จะมีกลไก การออกฤทธิ์ของ ยาเขียวเหลือง อยู่ 2 อย่างที่สำคัญ คือ ออกฤทธิ์กระตุ้นมิวรีเซปเตอร์ (µ-receptor) ซึ่งเมื่อกระตุ้นแล้วจะมีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด รวมทั้งมีฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาท และมีผลทำให้เกิดภาวะเคลิ้มสุข (Euphoria) ซึ่งการออกฤทธิ์นี้จะเหมือนกับการออกฤทธิ์ของยามอร์ฟีน แต่ยาทรามาดอลจะมีความแรงน้อยกว่าประมาณ 10 เท่า (บางข้อมูลระบุว่า มีความแรงน้อยกว่าประมาณ 5-20 เท่า) จึงทำให้ยาแก้ปวดประจําเดือน เม็ดสีเหลืองนี้ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษเหมือนกับมอร์ฟีน (แต่ยังจัดเป็นยาอันตรายและยังมีจำหน่ายตามร้านขายยา) อย่างไรก็ตาม แม้ยาทรามาดอลจะออกฤทธิ์น้อยกว่ามอร์ฟีนถึง 10 เท่า แต่ก็ยังมีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวด และบรรเทาอาการปวดได้ดีเนื่องจากมีกลไกการออกฤทธิ์อีกอย่างหนึ่งมาช่วยเสริมฤทธิ์ คือ ฤทธิ์เพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้เมื่อมีปริมาณเพิ่มขึ้นที่ไขสันหลังจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
แต่การเพิ่มขึ้นของสารเซโรโทนิน (Serotonin) จากกินยาแก้แพ้เกินขนาด เช่น การรับประทานยาครั้งละ 3-4 เม็ด อาจส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่า “Serotonin syndrome” (เป็นอาการที่เกิดจากเซโรโทนิมากเกิน) และอาจเกิดอาการในกลุ่มที่เรียกว่า Extrapyramidal เช่น กลืนลำบาก มือสั่น มีไข้ กล้ามเนื้อเกร็งตัวอย่างมาก หรืออาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น สับสน ประสาทหลอน และหวาดระแวง ส่วนการเพิ่มขึ้นของสารนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) นั้น อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น กระตุ้นระบบประสาทและทำให้ชักได้ ซึ่งอาการที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นมากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณยาเขียวเหลืองที่รับประทาน การใช้ร่วมกับทรามาดอลหรือสารอื่นที่อาจเพิ่มหรือลดการออกฤทธิ์ของยาtindol การทำงานของไต พันธุกรรมของยีนที่ใช้ในการทำลายยาทรามาดอล เป็นต้น
ห้ามทานยาแก้ไอเม็ดสีเขียวเกินขนาดหรือมากกว่าที่แพทย์หรือเภสัชกรกำหนดแม้จะรู้สึกว่าอาการปวดไม่ดีขึ้น เพราะเมื่อกินยา Tramadol เกินขนาด (Overdose) จะทำให้เกิดอาการเซื่องซึม รูม่านตาหรี่ ภาวะกายใจไม่สงบ และหัวใจเต้นเร็ว ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที ซึ่งการรักษาจะใช้ยานาล็อกโซน (Naloxone) แก้พิษเป็นระยะ และเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด เพราะหากฤทธิ์ของนาล็อกโซนหมด แต่ฤทธิ์ของยาทรามาดอลยังอยู่อาจจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการกำเริบได้อีก
หากใช้ยาเขียวเหลืองตัวนี้ ในขนาดปกติ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ของการรับประทานยาทรามาดอล คือ สับสน มึนงง วิตกกังวล หงุดหงิด ประสาทหลอน ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน ง่วงซึม อ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ใจสั่น มือสั่น ตาพร่ามัว การมองภาพได้ไม่ชัดเจน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปวดท้อง ท้องอืด จุกแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย ปัสสาะวะบ่อยหรือปัสสาวะคั่ง ตับอักเสบ น้ำหนักตัวลด แพ้ยา (ลมพิษ ผื่นคัน หลอดลมหดเกร็ง กลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome)) ปฏิกิริยาอะนาไฟแล็กทอยด์ (Anaphylactoid)
การกินยาเกินขนาดทำให้หายใจช้า เกิดอาการง่วงซึม หากรุนแรงจะหมดสติถึงขั้นโคม่า กล้ามเนื้ออ่อนแรง มือเย็นและเหงื่อออก รูม่านตาหดเล็ก อาจจะมีอาการชัก หัวใจเต้นช้า ความดันโลหิตต่ำ และหัวใจอาจจะหยุดเต้นได้ การใช้ยาทรามาดอลนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ อาจก่อให้เกิดการเสพติดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เคยเสพติดสารอนุพันธ์ฝิ่นมาก่อน
ยา Tramadol หรือ ทรามาดอล จัดเป็นยาอันตราย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 เนื่องจากมีผลข้างเคียงเยอะ
tramadol ซื้อได้จากร้านขายยาแต่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ และเนื่องจาก Tramadol เป็นยาอันตราย ข้อกฎหมายจึงระบุให้สามารถจำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่ได้รับอนุญาตและโรงพยาบาลเท่านั้น โดยต้องส่งมอบยาเขียวเหลืองโดยเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ และต้องจัดทำบัญชีรายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ผลิตทรามาดอลบัญชีรายชื่อยาแก้ปวดที่นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงรายงานการขายส่งยาเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตามระยะเวลาที่กำหนด
หากร้านขายยาไม่มีใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนในกรณีที่ไม่จัดทำบัญชีการซื้อหรือขายยา ผู้รับอนุญาตจะมีโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ในขณะที่เภสัชกรจะมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท สำหรับกรณีที่ร้านขายยา Tramadol ในระหว่างเภสัชกรไม่อยู่ ผู้รับอนุญาตจะมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท
Tramadol เป็นยาแก้ปวดใช้แก้ปวดประจำเดือนในระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ แต่ไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ เนื่องจากอาการปวดประจำเดือนระดับปานกลางใช้เพียงแค่ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน หรือนาพรอกเซน ก็เพียงพอแล้ว เพราะผลข้างเคียงน้อยถึงน้อยมาก และมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการผลิตและการทำงานของพรอสตาแกลนดิน อันเป็นสาเหตุของการปวดประจำเดือนได้ดี
ยา Tramadol ใช้เป็นยาแก้ปวดทางเลือกสำหรับแก้ปวดฟันแบบเฉียบพลันได้ ในกรณีที่ยาชนิดอื่นใช้ไม่ได้ผล แต่หากปวดฟันไม่มากก็จะไม่นิยมใช้ยานี้กัน เพราะผลข้างเคียงเยอะมากเมื่อเทียบกับยาพาราเซตามอลและยาแก้ปวดอื่นๆ
ทรามาดอล (Tramadol) หรือยาแก้ปวดที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า อนาดอล (Anadol), มาทราดอล (Matradol), ทรามอล (Tramol) เป็นยาในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ที่นำมาใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง (ทรามาดอลมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ดีเทียบเท่ากับมอร์ฟีนสำหรับอาการปวดระดับต่ำถึงปานกลาง แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าสำหรับอาการปวดรุนแรง)
หากใช้ยาทรามาดอลในรูปแบบรับประทาน ตัวยาจะออกฤทธิ์ภายหลังการรับประทานยาประมาณ 1 ชั่วโมง ออกฤทธิ์สูงสุดหลังรับประทานประมาณ 2-3 ชั่วโมง และจะหมดฤทธิ์ภายใน 6 ชั่วโมง กฎหมายยาในบ้านเรากำหนดให้ยาทรามาดอลเป็นยาอันตรายตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และมีขายในร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป การใช้ยานี้จึงต้องระมัดระวังและควรอยู่ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น ผู้ป่วยไม่ควรซื้อหายานี้มารับประทานด้วยตัวเอง
หลังมีผู้ออกมาเตือนวัยรุ่น กับการใช้ยาที่เรียกว่า “ยาเขียวเหลือง” ผสมโค้กอาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต สอดคล้องกับ อย. ระบุว่า ยาทรามาดอล ชนิดนี้เป็นยาอันตรายที่อยู่ในการควบคุม อยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ ห้ามซื้อกินเองเด็ดขาด ยาแก้ปวดเขียวเหลือง อันตราย กินติดต่อนานๆร่างกายทรุดโทรม
อันตรายของยาแก้ปวดเขียวเหลืองนั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว tramadol นั้นอันตรายหากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายทรุดโทรม ซึ่งมีอุทาหรณ์จากผู้ที่ใช้ยาทรามาดอลนี้จนติดแล้วร่างกายทรุดโทรม อ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ศูนย์พิษวิทยา กล่าว
ยาเหลืองเขียว จากข้อมูลทางวิชาการระบุว่า ยาทรามาดอล (Tramadol) ซึ่งเป็นยาที่ ออกฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน เป็นยาแก้ปวดใช้สำหรับระงับอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง ในทางการแพทย์จะใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังที่ใช้ยาแก้ปวดชนิดอื่นไม่ได้ผล เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ส่วนยาป๊อค เป็นยาน้ำเชื่อม แก้แพ้ ลมพิษ เมารถเมาเรือ การใช้ยาเหล่านี้อย่าง
ยาทรามาดอล (Tramadol หรือ Tramadol hydrochloride) เป็นยาที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า weak opioid agonist เป็นยาแก้ปวดที่ใช้บำบัดอาการปวดขั้นปานกลางถึงรุนแรง มีประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากโรคต่าง ๆ ซึ่งใช้ยาแก้ปวดชนิดอื่น ๆ แล้วไม่สามารถบรรเทาอาการปวดได้เพียงพอ หรือใช้ร่วมกันเพื่อให้แก้ปวดได้ดียิ่งขึ้น หากใช้ Tramadol 50 mg ในปริมาณที่พอเหมาะ
ยาเม็ดเขียวเหลือง ยาทรามาดอล (Tramadol) มีลักษณะเป็นแค็บซูล ยาเขียวเหลือง บางคนจะเรียกว่า ยาแท็กซี่ หรือ ยาว๊าบ เป็นยาในกลุ่มโอปิออยด์นำมาใช้เป็นยาแก้ปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง ทั้งชนิดอาการปวดแบบเฉียบพลันและปวดแบบเรื้อรัง เป็นยาที่ต้องสั่งใช้โดยแพทย์หรือจ่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น
การทานยา Tramadol หรือ ยาเขียวเหลือง ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งยาทรามาดอลจะออกฤทธิ์หลังกินประมาณ 1 ชั่วโมง และจะหมดฤทธิ์ภายใน 6-9 ชั่วโมง ขนาดรับประทานที่แนะนำคือ tramadol 50 mg จึงไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน ดังนั้นขนาดยาทรามาดอลที่แนะนำคือครั้งละ 1 – 2 เม็ดหรือแคปซูล หรือคิดเป็น 50 – 100 มิลลิกรัม/ครั้ง และเว้นระยะห่างในการใช้ยาเป็นเวลา 4 – 6 ชั่วโมง
ยาทรามาดอล นับว่าเป็นยาอันตรายเพราะผลข้างเคียงของยา Tramadol ที่พบได้ตั้งแต่ไม่รุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ มึนงง ง่วงซึม ประสาทหลอน จนถึงรุนแรงระดับนำไปสู่การเสียชีวิต เช่น ชักกดศูนย์การหายใจของร่ายกาย หรือซีโรโธนินซินโดรม (serotonin syndrome) ซึ่งจะมีอาการแสดงในหลายๆ ระบบของร่างกายพร้อมกัน เช่น กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ดังนั้นต้องพึงระวังไม่กินยาเกินขนาด และต้องทานตามที่แพทย์กำหนดให้เท่านั้น
ในทางการแพทย์ Tramadol นั้นใช้ในการระงับอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับมอร์ฟีน (morphine) โดยไปออกฤทธิ์กระตุ้นที่มิว รีเซปเตอร์ แต่เนื่องจากยาชนิดนี้ระงับอาการปวดได้น้อยกว่ามอร์ฟีน 5-20 เท่า จึงทำให้ยาชนิดนี้ไม่จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษ นอกจากนี้ ยาทรามาดอล ยังเป็นยาแก้ปวดออกฤทธิ์ระงับปวดปลายประสาท โดยออกฤทธิ์ยับยั้งตัวเก็บกลับสาร
การใช้ ยาเขียวเหลือง อาการข้างเคียงสูง ได้แก่ ทำให้มีอารมณ์แปรปรวน มึนงง เคลิ้ม เฉื่อยชา และหากกินยาเกินขนาดจะทำให้เกิดภาวะอื่น ๆ ตามมา เช่น รูม่านตา ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานล้มเหลว ชัก ระบบการหายใจช้าลงจนอาจถึงขั้นหยุดหายใจ และอาจทำให้ช็อกถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น ผู้รับอนุญาตขายยาและเภสัชกร จะต้องร่วมกันในการจ่ายยาทรามาดอล
พิษจากยาทรามาดอลนั้นสามารถทำให้เกิดอาการ serotonin syndrome ขั้นรุนแรงจะทำให้มีภาวะไข้สูงเกิน (hyperpyrexia) นำไปสู่อาการแทรกซ้อน คือ ภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (rhabdomyolysis) ภาวะลิ่มเลือดกระจายทั่วไปในหลอดเลือด (disseminated intravascular coagulation) ภาวะไตวายเฉียบพลัน (acute kidney injury) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้งาน Tramadol
รูปแบบการผสม Tramadol มีส่วนผสมดังนี้
สูตรที่ 1
สูตรที่ 2
ยา Tramadol แนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน ซึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือง่วงนอนได้มากขึ้น ดังนั้นห้ามขับรถ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว อย่างเด็ดขาด
การใช้ยาทรามาดอล นั้นสามารถรับประทานได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร แต่ควรรับประทานเหมือนกันทุกครั้ง (ห้ามบดหรือเคี้ยวเม็ดยา เพราะจะทำให้ยาดูดซึมเร็วเกินไป) โดยให้รับประทานยาพร้อมกับดื่มน้ำสะอาด
ยาแก้ปวดรุนแรง ที่ได้รับแพทย์สั่งจ่ายให้นั้นส่วนมากจะเป็นยาที่มีชื่อว่า ทรามาดอล หรือ Tramadol หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการค้าว่า อนาดอล (Anadol) มาทราดอล (Matradol) ทรามอล (Tramol) เป็นยาบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ดีเทียบเท่ากับมอร์ฟีน
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tramadol นั้นพบได้ตั้งแต่อาการไม่รุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก มือสั่น ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ มึนงง ง่วงซึม ประสาทหลอน จนถึงรุนแรงระดับนำไปสู่การเสียชีวิต เช่น ชักกดศูนย์การหายใจของร่ายกาย หรือซีโรโธนินซินโดรม (serotonin syndrome)
มาตรการทางกฎหมาย ยาทรามาดอล หรือ Tramadol จัดเป็น “ยาอันตราย” ต้องจำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่ได้รับอนุญาต และต้องส่งมอบยาโดย เภสัชกร ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ และผู้รับอนุญาตขายยาเท่านั้น
การใช้ ยาเขียวเหลือง หรือ ยาทรามาดอล นั้นตัวยาจะออกฤทธิ์ภายหลังการรับประทานยาประมาณ 1 ชั่วโมง ออกฤทธิ์สูงสุดหลังรับประทานประมาณ 2-3 ชั่วโมง และจะหมดฤทธิ์ภายใน 6 ชั่วโมง
เนื่องจากยาทรามาดอลจัดเป็นยาอันตรายจึงจะใช้ในกรณีที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น เพราะยาเขียวเหลืองเป็นยาที่มีผลข้างเคียงสูง โดยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนงง เหงื่อออก คัน และท้องผูก อาจพบว่ามีอาการซึมได้บ้าง ถ้าหากได้รับยาเกินขนาดจะทำให้เกิดภาวะอื่น ๆ ตามมา เช่น รูม่านตาหด ระบบหัวใจและหลอดเลือดล้มเหลว ชักและระบบหายใจทำงานช้า
ยาทรามาดอล หรือ ยาTramadol เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มยาระงับปวด โดยนิยมใช้ในกรณีที่มีอาการปวดค่อนข้างรุนแรง เป็นยาที่จัดอยู่ในยาอันตรายและเป็นยาที่จ่ายได้ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น ทั้งนี้กลไกการทำงานของยาทรามาดอล เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายแล้วตัวยาจะเข้าไปสั่งการสมองและระบบประสาทให้คลายความเจ็บปวดลงในระยะเวลา 6 ชั่วโมงไม่เกินกว่านั้น
การทาน ยาทรามาดอล ควรทาน tramadol 50 mg หรือรับประทานที่แนะนำจึงไม่เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน หรือรับประทานครั้งละ 1 – 2 เม็ดหรือแคปซูล หรือคิดเป็น 50 – 100 มิลลิกรัม/ครั้ง และเว้นระยะห่างในการใช้ยาเขียวเหลืองเป็นเวลา 4 – 6 ชั่วโมง
ยาเม็ดเขียวเหลือง หรือ ยาทรามาดอล หรือ Tramadol มีลักษณะเป็นแค็บซูล สีเขียวเหลือง บางคนจะเรียกว่า ยาแท็กซี่ หรือ ยาว๊าบ เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ใช้บรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง ทั้งชนิดอาการปวดแบบเฉียบพลันและปวดแบบเรื้อรัง เป็นยาที่ต้องสั่งใช้โดยแพทย์หรือจ่ายโดยเภสัชกรเท่านั้น
ยาเขียวเหลือง หรือชื่อทางการแพทย์เรียกว่า ทรามาดอล นั้นใน 1 กระปุกใหญ่จะมีปริมาณ 500 แคปซูล
การทาน ทรามาดอล นั้นจะรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่ถ้ามีอาการคลื่นไส้เกิดขึ้น อาจบรรเทาได้ด้วยการรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร และให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรทันที
อย่างที่ทราบกัน ทรามาดอล เป็น ยาแก้ปวด ที่มีฤทธิ์กดการทำงานของประสาท และมีผลทำให้เกิดอาการเคลิ้มสุข คล้ายกันกับการใช้ยามอร์ฟีน (แต่มีความแรงน้อยกว่ามอร์ฟีนประมาณ 10 เท่า) ด้วยความรุนแรงที่น้อยกว่า ถึงทำให้ยาทรามาดอล ไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของยาเสพติดให้โทษเหมือนมอร์ฟีน และยังสามารถจำหน่ายตามร้านขายยาได้
ยาเขียวเหลือง หรือ ทรามาดอล(tramadol) เป็นยาในกรุ๊ปโอปิออยด์ ที่ใช้ทุเลาอาการปวดเหมือนกับมอร์ฟีน ลดอาการปวดระดับปานกลางจนกระทั่งระดับร้ายแรง